สมัครไว้นานแล้ว เมื่อก่อนนี้เอาไว้อ่านอย่างเดียว ปกติแล้วผมก็จะชอบสิงอยู่ห้องหว้ากอเป็นส่วนใหญ่
ตอนแรกที่กำลังจะเตรียมจัดงานอยู่นั้นผมก็ยังฉุกละหุกมัวแต่เร่งปิดงานในออฟฟิศ ตอนนี้ทำงานเสร็จแล้วอยู่ในช่วงลางาน ได้นั่งชิวๆ อยู่ที่บ้าน (ตจว) จู่ๆ มันก็ดันเกิดอาการ "ประหม่า" ขึ้นมาซะอย่างไงอย่างงั้นเลย
ไม่นึกเลยครับ... ว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เขียนกระทู้ระบายความในใจ
ตอนนี้ ผมอายุ 28 ส่วนเจ้าสาว อายุ 25 หลายๆ คนรอบตัว พอได้ยินข่าวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมไวจัง ถ้าให้ผมตอบผมก็คงจะบอกว่าไม่ไวไปหรอกนะครับ แต่ปัจจุบันสังคมเมืองเราอาจจะโตช้ากันไปหน่อย กว่าจะถึงวัยที่พร้อมกันอายุก็เลยเข้าเลข 3 เลข 4 กันแล้ว
ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้แต่งหรอกครับ เพราะปกติแล้วคนเราจะมี "มโน" ในใจว่างานแต่งฉัน อยากให้เป็นแบบนู้น แบบนี้ บลา บลา ... แต่ละคนก็มีสเป็คในใจแตกต่างกันออกไป สำหรับในสเป็คผมเนี่ยก็กะว่างบราวๆ 6-7 แสนละมั้ง ถึงจะจัดได้อย่างที่คิด
แต่ชีวิตไม่แน่ไม่นอนครับ...
มานั่งนึกย้อนดู เวลามีเงินผมก็มักจะเอาไปซื้อของสนอง need ส่วนตัวก่อนทุกที ไม่ว่าจะเป็น จักรยาน ท่องเที่ยว ฮ.บังคับวิทยุ ฯลฯ เห็นไหมครับหมดไปกับ activity ที่เราสนใจเรื่อยๆ เรื่องเก็บเงินแต่งงานน่ะไว้หลังๆ เลย แล้วบอกตัวเองว่าไม่พร้อม
"บางทีความพร้อมก็อาจมาทีหลัง" รุ่นพี่ที่ผมเคารพคนหนึ่งเคยกล่าวไว้
เมื่อก่อนผมไม่เคยเก็ตนะครับ แต่พอเวลาผ่านไป ไอ้ความคิดที่ว่างานแต่งต้องใช้เงินนู่นนี่นั่น มันหายไปหมดเลยครับ กลายเป็นว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำซะเปล่าๆ โชคยังดีที่แฟนผมก็ไม่ได้อินอะไรกับเรื่องนี้มากนัก ไม่ได้คิดว่า "นี่ครั้งเดียวในชีวิตชั้นนะ ดังนั้นเรามาทุ่มหมดหน้าตักกันเถอะ"
เรากลับเห็นตรงกันว่างานที่จัดไปยังไงก็ต้องเก็บเอาไว้สำหรับวันข้างหน้า (ตามประสาคนไม่มี) ต้องเลือกเอาครับ จะมีหน้าหรือมีหนี้ ฮาา
ดังนั้นงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เราเลือกที่จะจัดตามกำลังครับ ของส่วนมากก็จะทำเอง อย่างเช่น การ์ดเชิญ ที่ผมออกแบบเอง หรือจะเป็นสถานที่ที่เราจัดกันเอง
ตอนนี้ก็ราบรื่นดีครับ อีกไม่นานนี้ (20/04/2556) งานก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้วครับ หลังจากนี้ผมก็ต้องใช้ชีวิตคู่แล้ว ไม่ได้คิดอะไรแค่คนเดียวอีกต่อไป ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ... แฮ่ ตื่นเต้นๆ
นี่เป็นเว็บไซต์ที่ผมทำให้เจ้าสาวครับ เอาไว้เป็นที่ระทึก ฮาา
http://married.bentino.me
ขอบคุณที่อ่านครับ
ปล. ถ้าพันทิปยังให้บริการอยู่ อีก 20 ปี ข้างหน้า ผมอาจได้นั่ง time machine กลับมา ณ จุดนี้อีกครั้งก็เป็นได้ครับ
ผมกำลังจะแต่งงาน...
ตอนแรกที่กำลังจะเตรียมจัดงานอยู่นั้นผมก็ยังฉุกละหุกมัวแต่เร่งปิดงานในออฟฟิศ ตอนนี้ทำงานเสร็จแล้วอยู่ในช่วงลางาน ได้นั่งชิวๆ อยู่ที่บ้าน (ตจว) จู่ๆ มันก็ดันเกิดอาการ "ประหม่า" ขึ้นมาซะอย่างไงอย่างงั้นเลย
ไม่นึกเลยครับ... ว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เขียนกระทู้ระบายความในใจ
ตอนนี้ ผมอายุ 28 ส่วนเจ้าสาว อายุ 25 หลายๆ คนรอบตัว พอได้ยินข่าวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมไวจัง ถ้าให้ผมตอบผมก็คงจะบอกว่าไม่ไวไปหรอกนะครับ แต่ปัจจุบันสังคมเมืองเราอาจจะโตช้ากันไปหน่อย กว่าจะถึงวัยที่พร้อมกันอายุก็เลยเข้าเลข 3 เลข 4 กันแล้ว
ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้แต่งหรอกครับ เพราะปกติแล้วคนเราจะมี "มโน" ในใจว่างานแต่งฉัน อยากให้เป็นแบบนู้น แบบนี้ บลา บลา ... แต่ละคนก็มีสเป็คในใจแตกต่างกันออกไป สำหรับในสเป็คผมเนี่ยก็กะว่างบราวๆ 6-7 แสนละมั้ง ถึงจะจัดได้อย่างที่คิด
แต่ชีวิตไม่แน่ไม่นอนครับ...
มานั่งนึกย้อนดู เวลามีเงินผมก็มักจะเอาไปซื้อของสนอง need ส่วนตัวก่อนทุกที ไม่ว่าจะเป็น จักรยาน ท่องเที่ยว ฮ.บังคับวิทยุ ฯลฯ เห็นไหมครับหมดไปกับ activity ที่เราสนใจเรื่อยๆ เรื่องเก็บเงินแต่งงานน่ะไว้หลังๆ เลย แล้วบอกตัวเองว่าไม่พร้อม
"บางทีความพร้อมก็อาจมาทีหลัง" รุ่นพี่ที่ผมเคารพคนหนึ่งเคยกล่าวไว้
เมื่อก่อนผมไม่เคยเก็ตนะครับ แต่พอเวลาผ่านไป ไอ้ความคิดที่ว่างานแต่งต้องใช้เงินนู่นนี่นั่น มันหายไปหมดเลยครับ กลายเป็นว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำซะเปล่าๆ โชคยังดีที่แฟนผมก็ไม่ได้อินอะไรกับเรื่องนี้มากนัก ไม่ได้คิดว่า "นี่ครั้งเดียวในชีวิตชั้นนะ ดังนั้นเรามาทุ่มหมดหน้าตักกันเถอะ"
เรากลับเห็นตรงกันว่างานที่จัดไปยังไงก็ต้องเก็บเอาไว้สำหรับวันข้างหน้า (ตามประสาคนไม่มี) ต้องเลือกเอาครับ จะมีหน้าหรือมีหนี้ ฮาา
ดังนั้นงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เราเลือกที่จะจัดตามกำลังครับ ของส่วนมากก็จะทำเอง อย่างเช่น การ์ดเชิญ ที่ผมออกแบบเอง หรือจะเป็นสถานที่ที่เราจัดกันเอง
ตอนนี้ก็ราบรื่นดีครับ อีกไม่นานนี้ (20/04/2556) งานก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้วครับ หลังจากนี้ผมก็ต้องใช้ชีวิตคู่แล้ว ไม่ได้คิดอะไรแค่คนเดียวอีกต่อไป ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ... แฮ่ ตื่นเต้นๆ
นี่เป็นเว็บไซต์ที่ผมทำให้เจ้าสาวครับ เอาไว้เป็นที่ระทึก ฮาา
http://married.bentino.me
ขอบคุณที่อ่านครับ
ปล. ถ้าพันทิปยังให้บริการอยู่ อีก 20 ปี ข้างหน้า ผมอาจได้นั่ง time machine กลับมา ณ จุดนี้อีกครั้งก็เป็นได้ครับ